Posts

บทเรียนสั้นๆประจำวัน เรื่องกายและวิญญาณ

Image
 บทเรียนสั้นๆประจำวัน กายและวิญญาณแยกกันตอนตาย  แต่จะกลับมาร่วมกันอีกเมื่อเป็นขึ้นจากตาย  แต่กายเนื้อหนังจะกลายเป็นกายวิญญาณชั่วนิรันดร์

บทเรียนไปษณีย์ บทที่ 8

Image
  บทที่   8 ชีวิตคริสเตียน โดย   วีรศักดิ์   วรฤทธิ์สกุล                ในบทที่แล้วผู้เขียน   ได้บอกถึงวิธีการเป็นคริสตียน   ผู้ที่มีความประสงค์ที่จะเป็นบุตรของพระเจ้าจะต้องทำ   5   ประการด้วยกันคือ   ได้ยิน   เชื่อ   กลับใจ   สารภาพและรับบัพติศมา   ดังนั้นจะเห็นได้ว่าวิธีการเป็นนั้นก็ง่ายมากและไม่เสียเงินอะไร   แถมได้รับความรอดจากกฎแห่งกรรม   ไม่ต้องไปใช้หนี้บาปในนรก   และจะได้ไปอยู่กับพระเจ้าในสวรรค์ชั่วนิรันดร์   เพราะเขาได้เข้าส่วนในความตายกับพระเยซู   และพระองค์ได้ไถ่เขาแล้ว                  แต่สิ่งที่ยากคือ   การดำเนินชีวิตคริสเตียน   การเป็นนั้นง่าย   แต่การที่จะใช้ชีวิตเพื่อพระเยซูนี่ยาก   สาเหตุเพราะว่ามารซาตาน   ซึ่งเป็นวิญญาณชั่วต้องการที่จะทำลายทุกคนที่เชื่อในพระเจ้า   มันจะขัดขวางทุกวิถีทางที่จะไม่ให้มนุษย์กลับใจจากบาปมาหาพระเจ้า   และพยายามที่จะทำให้คนเป็นแล้วเลิกเป็น   ดังนั้นศัตรูยิ่งใหญ่ของคริสเตียนคือซาตานและความชั่ว   อุปสรรคในการเป็นคริสเตียน                หลายคนที่เรียนบทเรียนนี้แล้ว   และอยากเป็นสาวกของพระเยซูก็มีมาก   แต่อุปสรรคใหญ่ในการที่ทำให้เรา

บทเรียนไปษณีย์ บทที่ 7

Image
  บทที่   7 การเป็นสมาชิกคริสตจักรแท้ โดย  วีรศักดิ์  วรฤทธิ์สกุล                คนไทยส่วนใหญ่   ยังไม่เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างคริสตจักร   คริสเตียน   และนิกายต่าง ๆ   และบางครั้งก็เข้าใจสับสนกัน   บทเรียนนี้ต้องการให้เราเข้าใจถึงความแตกต่างนั้น   และให้เราแน่ใจว่าเราต้องการเป็นสมาชิกของคริสตจักรที่แท้จริง   ซึ่งพระเยซูได้ทรงตั้งขึ้น   ไม่ใช่เป็น           คริสตจักรที่แท้จริง    ซึ่งพระเยซูได้ทรงตั้งขึ้น   ไม่ใช่เป็นคริสตจักรที่มนุษย์ตั้งขึ้นมา   คริสตจักรกับคริสเตียน                เรามักเข้าใจกันว่าคริสตจักร หมายถึง   ที่นมัสการพระเจ้าเหมือนกับวัดในพุทธศาสนา   ความจริงนี่ไม่ถูกต้อง   คริสตจักรไม่ได้หมายถึงตัวตึกหรืออาคารที่ใช้ในการนมัสการพระเจ้า   คำว่า   คริสตจักร   มาจากคำว่าเอ็คคลาเซีย   แปลว่า   ถูกแยกออกมา   (จากโลกแห่งความชั่ว)    หรือถ้าจะพูดอีกทีหนึ่ง   คริสตจักรคือกลุ่มคริสเตียน   ถ้าหากเป็นคนเดียวเราเรียกว่า   คริสเตียน   ถ้าหากเป็นหลายคนเราเรียกว่า   คริสตจักร   อาคารที่พวกคริสเตียนมาประชุมกันเรียกว่า   ที่ประชุมของคริสตจักร   แต่อาคารนั้นไม่ใช่คริสตจักร   ส

บทเรียนสั้นๆประจำวัน เรื่องความรัก

Image
บทเรียนสั้นๆประจำวัน ความรัก 4 อย่าง  อาก้าเพ รักแบบพระเจ้าไม่มีเงื่อนไข เอโรส แบบโรแมนติก หนุ่มสาว ฟิเลโอ - พี่น้องและญาติ  และสโตเก รักพรรคพวก

บทเรียนไปษณีย์ บทที่ 6

Image
  บทที่   6 พระคริสตธรรมคัมภีร์ โดย  วีรศักดิ์  วรฤทธิ์สกุล                ทุกศาสนามีคัมภีร์   เพื่อเป็นมาตรฐานในการดำเนินชีวิตและพิธีกรรมในทางศาสนา   พุทธมีพระไตรปิฎก   อิสลามมีโกหร่าน   (อัลกุรอ่าน)   และคริสต์มีพระคริสตธรรมคัมภีร์   ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่าไบเบิล   (จากภาษากรีก   บิบลิอะ)   แปลว่า หนังสือ   แต่ข้อแตกต่างคือ   คริสเตียนถือว่าหนังสือเล่มนี้ผู้เขียนได้รับการดลใจจากพระเจ้าให้เขียนขึ้น   พวกเขาไม่ได้เขียนขึ้นตามอำเภอใจของตนเอง   ในพระคริสตธรรมคัมภีร์มีข้ออ้างว่า   เป็นพระคำของพระเจ้ามากกว่า   3,000   ครั้ง   “ ท่านทั้งหลายก็จงรู้ข้อนี้ก่อนคือว่า   คำพยากรณ์ทุกคำที่จารึกไว้ในพระคัมภีร์แล้วพวกผู้พยากรณ์ไม่ได้คิดออกมาตามลำพังใจของตนเอง   ด้วยว่าคำพยากรณ์นั้นเมื่อก่อนไม่ได้เป็นมาตามน้ำใจมนุษย์   แต่ว่ามนุษย์ได้กล่าวคำซึ่งมาจากพระเจ้า   ตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงดลใจให้กล่าวนั้น ”    (2   เปโตร   1.20-21)     ใครเขียนพระคริสตธรรมคัมภีร์                ผู้เขียนต่าง ๆ   40   คนจากต่างอาชีพฐานะและสถานที่บอกว่า   พระเจ้าดลใจ   คำว่าดลใจหมายถึง   การระบายลมหายใจเข้าสู่

บทเรียนไปษณีย์ บทที่ 5

Image
  บทที่  5 พระเยซูเป็นพระเจ้า โดย  วีรศักดิ์  วรฤทธิ์สกุล                จำได้ไหมในบทเรียนบทที่แล้วเราบอกว่า   ถ้าหากพระเยซูคริสต์เป็นพระเจ้า   พระองค์สามารถไถ่เราได้   ไม่แต่เพียงเท่านั้น ความหวังในการที่จะใช้ชีวิตร่วมกับพระองค์ในสวรรค์ต้องเป็นความจริง   และคนชั่วจะต้องไปใช้หนี้กรรมของตนในนรก   เพราะว่าพระเจ้ามุสาไม่ได้   ไม่แต่เพียงเท่านั้น   ศาสนาคริสต์   เป็นศาสนาเดียวที่ให้ความหวังแก่มนุษย์และเป็นความจริง   แต่ถ้าหากพระเยซูไม่ใช่พระเจ้า   ทุกสิ่งในศาสนาคริสต์เป็นความเท็จและพวกคริสเตียนเป็นคนโง่   การเป็นขึ้นจากตายพิสูจน์ความเป็นพระเจ้า                หนักประวัติศาสตร์คริสเตียนได้เขียนไว้ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ใหม่ตามหนังสือโยฮัน บทที่   20   ข้อ 1-7   ว่าสาวกสตรีมาเรียมัฆดาลาได้ไปที่อุโมงค์ฝังศพของพระเยซู   แต่เมื่อนางไปถึงนางเห็นปากอุโมงค์เปิดอยู่   นางจึงไปบอกอัครสาวกเปรโตรและโยฮัน   ทั้งสองได้มาถึงอุโมงค์   และเมื่อเข้าไปในอุโมงค์พวกเขาเห็นผ้าพันพระศพและผ้าพันพระเศียรวางไว้ที่แท่นพระศพ   คำถามคือพระศพหายไปไหน?    ศพเดินเองไม่เป็นและเคลื่อนไหวเองไม่ได้   ข้อกล่าวหา