บทเรียนไปษณีย์ บทที่ 7
บทที่ 7
การเป็นสมาชิกคริสตจักรแท้
โดย วีรศักดิ์
วรฤทธิ์สกุล
คนไทยส่วนใหญ่
ยังไม่เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างคริสตจักร คริสเตียน
และนิกายต่าง ๆ และบางครั้งก็เข้าใจสับสนกัน
บทเรียนนี้ต้องการให้เราเข้าใจถึงความแตกต่างนั้น
และให้เราแน่ใจว่าเราต้องการเป็นสมาชิกของคริสตจักรที่แท้จริง ซึ่งพระเยซูได้ทรงตั้งขึ้น ไม่ใช่เป็น คริสตจักรที่แท้จริง ซึ่งพระเยซูได้ทรงตั้งขึ้น ไม่ใช่เป็นคริสตจักรที่มนุษย์ตั้งขึ้นมา
คริสตจักรกับคริสเตียน
เรามักเข้าใจกันว่าคริสตจักร
หมายถึง
ที่นมัสการพระเจ้าเหมือนกับวัดในพุทธศาสนา
ความจริงนี่ไม่ถูกต้อง
คริสตจักรไม่ได้หมายถึงตัวตึกหรืออาคารที่ใช้ในการนมัสการพระเจ้า คำว่า
คริสตจักร
มาจากคำว่าเอ็คคลาเซีย แปลว่า ถูกแยกออกมา
(จากโลกแห่งความชั่ว)
หรือถ้าจะพูดอีกทีหนึ่ง
คริสตจักรคือกลุ่มคริสเตียน
ถ้าหากเป็นคนเดียวเราเรียกว่า
คริสเตียน
ถ้าหากเป็นหลายคนเราเรียกว่า คริสตจักร อาคารที่พวกคริสเตียนมาประชุมกันเรียกว่า ที่ประชุมของคริสตจักร แต่อาคารนั้นไม่ใช่คริสตจักร ส่วนผู้ที่เชื่อฟังพระเยซูและเป็นสาวกของพระองค์เรียกว่า คริสเตียน
คริสตจักรแท้กับนิกาย
สิ่งที่ผู้เชื่อในพระเยซูจะพึงปรารถนามากที่สุด คือ
การเป็นแต่คริสเตียนเท่านั้น
เขาจะต้องการที่จะเป็นสมาชิกนิกายหนึ่งนิกายใด เราจะต้องไม่ลืมว่า
เมื่อพระเยซูทรงตั้งคริสตจักรของพระองค์ขึ้นตามหนังสือกิจการบทที่ 2
พระองค์มิได้ตั้งคริสตจักรเป็นนิกาย
พระเยซูได้ทรงสัญญาว่าพระองค์จะทรงตั้งคริสตจักรของพระองค์ “บนศิลานี้เราจะตั้งคริสตจักรของเราไว้”
(มัดธาย 16.18)
พระองค์ไม่ได้ตั้งนิกายต่าง ๆ
ที่เกิดขึ้นในภายหลัง
เช่นกับพระพุทธเจ้าไม่ได้เริ่มศาสนาพุทธนิกายหนึ่งนิกายใด แต่เริ่มศาสนาพุทธ
โมฮัมหมัดก็เช่นกันไม่ได้เริ่มนิกายหนึ่งนิกายใดในศาสนาอิสลาม ท่านเริ่มแต่ศาสนาอิสลาม ดังนั้นศาสดาของแต่ละศาสนาไม่ได้เริ่มนิกาย แต่เป็นผู้เริ่มศาสนานั้น ๆ ที่ไม่มีนิกาย
คนที่จะเป็นคริสเตียนจะต้องมีเป้าประสงค์อันนี้คือ จะไม่ยอมเป็นนิกายใด ๆ ทั้งสิ้น
ถ้าหากเราจะเป็นคริสเตียนให้เราแน่ใจว่าเราจะเป็นสมาชิกของคริสตจักรที่เป็นของพระเยซูไม่ใช่คริสตจักรที่เป็นนิกาย
วิธีการเป็นสมาชิกคริสตจักร ขอพระเยซู
วิธีการเป็นสมาชิกคริสตจักร ก็โดยวิธีการเป็นคริสเตียนนั่นเอง
ถ้าหากเราเป็นคริสเตียนตามที่พระเยซูทรงตรัสสอน เราก็สามารถที่จะเป็นสมาชิกของคริสตจักรที่พระองค์ตั้งขึ้น ถ้าหากเราไม่ได้ทำตามที่พระเยซูทรงตรัสสั่ง
เราก็ไม่สามารถที่จะเป็นสมาชิกคริสตจักรของพระองค์ ถูกไหม?
ถ้าเราทำตามที่มนุษย์บอก
เราก็เป็นสมาชิกคริสตจักรมนุษย์
แต่ถ้าเราทำตามคำตรัสของพระเยซูเราก็เป็นสมาชิกคริสตจักรของพระองค์
คำถามคือว่าพระเยซูทรงตรัสถึงพิธีการเป็นคริส-เตียนอย่างไร?
ห้าประการในการเป็นคริสเตียน
ในสมัยก่อนที่พระเยซูจะประสูติ พระเจ้าได้ติดต่อกับมนุษย์ด้วยวิธีการต่าง
ๆ
และมนุษย์เหล่านั้นต่างก็แสดงความศรัทธาในพระองค์ ด้วยการกระทำที่ต่างกันไปแล้วแต่ว่า พระเจ้าจะประสงค์อะไร แต่ในสมัยของพระเยซูที่เป็นยุคสุดท้ายนั้น
พระเยซูได้ทรงตรัสถึงเงื่อนไขที่คนบาปจะต้องกระทำเพื่อจะเป็นสมาชิกในคริสตจักรของพระองค์ และจะได้รับการรอดพ้นจากกฎแห่งกรรม มีอะไรบ้าง?
“ฤทธานุภาพทั้งสิ้นในสวรรค์ก็ดี ในแผ่นดินโลกก็ดีทรงมอบไว้แก่เราแล้ว
เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุกประเทศให้เป็นสาวก ให้รับบัพติศมา ในนามแห่งพระบิดา พระบุตร
และพระวิญญาณบริสุทธิ์” (มัดธาย 28.19)
“ท่านทั้งหลายจงออกไปทั่วโลกประกาศกิตติคุณแก่มนุษย์ทุกคน ผู้ใดได้เชื่อและรับบัพ-ติศมาแล้ว ผู้นั้นจะรอด
แต่ผู้ใดไม่เชื่อจะต้องปรับโทษ” (มาระโก 16.16)
“มีคำเขียนไว้อย่างนั้นว่าจะเป็นที่พระคริสต์จะต้องทนทุกข์ทรมาน
และเป็นขึ้นจากตายในวันที่สามและจะต้องประกาศในนามของพระองค์เรื่องการกลับใจใหม่ และเรื่องการยกบาปทั่วทุก”ประเทศ” (ลก 24.46-47)
“เหตุดังนั้นทุกคนที่รับเราต่อหน้ามนุษย์ เราจะรับผู้นั้นเฉพาะพระพักตร์พระบิดาของเราผู้อยู่ในสวรรค์”
(มัดธาย 10.32)
จากข้อพระคัมภีร์ข้างต้น ที่พระเยซูได้ทรงตรัส คนที่จะเป็นคริสเตียน และจะรอดจากกฎแห่งกรรมนั้นจะต้องทำสิ่งต่อไปนี้
1.
ได้ยิน
คนที่จะเชื่อในพระเยซูจะต้องมีโอกาสได้ยินเรื่องของพระองค์ก่อน พระเยซูสั่งให้สานุศิษย์ของพระองค์
ออกประกาศเรื่องการวายพระชนม์ของพระองค์เพื่อไถ่มนุษย์
สาเหตุเพราะถ้ำไม่มีการประกาศให้คนได้ยินแล้วความศรัทธาจะเกิดขึ้นไม่ได้ แต่มีหลาย ๆ
คนที่เกิดความศรัทธาจะเกิดความเชื่อโดยการศึกษาพระคัมภีร์ หรือหนังสือได้เช่นกัน
2.
ต้องมีความศรัทธา
(ความเชื่อ)
เมื่อบุคคลใดที่ได้ยินหรือได้ศึกษาเรื่องพระเยซูแล้ว และเกิดความเชื่อว่า พระเยซูทรงเป็นพระเจ้าที่มาไถ่บาป เมื่อนั้นคนนี้พร้อมแล้วที่จะเป็น
คริสเตียน
ถ้าหากเป็นคริสเตียนโดยไม่มีความเชื่อในพระเยซูจะไม่มีประโยชน์อะไร เขาต้องเชื่อว่า พระองค์คือพระผู้ช่วยให้รอดของเขา
3.
ต้องกลับใจใหม่
เมื่อเขารู้แน่นอนว่าพระเยซูได้สิ้นพระชนม์ไถ่เขา เขาจะต้องถวายชีวิตของเขาให้แก่พระองค์
เมื่อเรายังไม่เป็นคริสเตียนเราก็ประพฤติตามใจตนเองและความปรารถนาจากใจชั่ว
เมื่อเป็นคริสเตียนแล้วเขาจะต้องให้พระเยซูมาที่หนึ่ง เลิกจากการชั่วและการกระทำต่าง ๆ ที่จะทำให้เขากระทำผิดต่อน้ำพระทัยของพระองค์
4.
สารภาพ
ความเชื่อและกลับใจใหม่เป็นเรื่องของจิตใจภายในไม่มีใครรู้จนกว่าเราจะพูดออกมา ดังนั้นเราจะเป็นคริสเตียนแบบลับ ๆ
ไม่บอกใครไม่ได้ ถ้าเราไม่พร้อมที่จะรับพระเยซูต่อหน้ามนุษย์ พระองค์ก็จะไม่ยอมรับเราด้วย การยอมรับพระเยซูไม่ใช่เพียงแต่พูดด้วยปาก แต่ด้วยชีวิตการประพฤติที่พิสูจน์ว่า มีความเชื่อและกลับใจใหม่จริง
5.
รับบัพติศมา
คำนี้มาจากคำว่าจุ่มมิด
คนที่จะเป็นคริสเตียนอย่างถูกต้องจะต้องรับบัพติศ-มาคือการจุ่มลงในน้ำ เพื่อจะเข้าส่วนในความตายของพระเยซู การสิ้นพระชนม์ของ พระองค์เพื่อจะล้างาบาปหรือไถ่เรา
ดังนั้นใครก็ตามที่เข้าส่วนในการตายกับพระองค์คือได้จุ่มตัวลงมิดในน้ำ คนเก่าที่ได้ทำบาปก็ตายแล้วในน้ำ
พอขึ้นมาจากการจุ่มมิดน้ำนั้นก็เท่ากับเป็นการเกิดใหม่อีกครั้งหนึ่ง คนเก่าที่ทำบาปจำเป็นต้องตาย
เมื่อใดที่มีการตายเมื่อนั้นก็มีการอโหสิกรรม
การรับบัพติศมากระทำเพื่อการยกโทษบาปเก่าที่ได้ทำไป สิ่งที่ลบล้างบาปไม่ใช่น้ำแต่พระโลหิต ความศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่น้ำ
แต่ความเชื่อของเราในพระโลหิตที่พระองค์ทรงหลั่งเพื่อไถ่บาปมนุษย์ที่กางเขนนั้น
Comments
Post a Comment