คำอุปมา บทที่ 1


 

บทที่  1

คำอุปมาเรื่องหว่านพืช

(มธ 13.3-8, 18-23, มก 4.3-8, 14-20, ลก 8.5-8, 11-15)

 

1.      พื้นฐาน

ก.        พระเยซูเพิ่งขับผีออกจากชายคนหนึ่ง  (มธ 12.22)

ข.        นี่ทำให้เกิดความสนใจและความขัดแย้งขึ้น  (มธ 12.23-37)

ค.        พวกฟาริซายต้องการให้พระองค์สำแดงหมายสำคัญ  (การอัศจรรย์)  แต่ถูกพระองค์ต่อว่า

ง.         ครอบครัวของพระองค์ต้องการพบพระองค์แต่พบไม่ได้เพราะว่ามีคนมาก

จ.         พระเยซูจึงเสด็จไปยังชายทะเลและตรัสแก่คนต่าง ๆ  ที่มาฟังพระองค์  (มธ 13.1-2)

 

2.      เนื้อเรื่อง

ก.      ผู้หว่านออกไปหว่านพืช

1)        ให้จินตนาการเรื่องเข้ากับสภาพของคนในศตวรรษแรก  (เหมือนกับการหว่านในประเทศไทย)

2)        ผู้หว่านแน่นอนไม่ต้องสงสัยคือ  พระคริสต์  บรมอาจารย์  (ยฮ 3.2)

3)        ตามหลักการก็หมายถึง  ทุกคนที่ออกไปสั่งสอนความจริงอย่างสัตย์ซื่อด้วย

ข.      เมล็ดได้ถูกโปรยให้กระจายโดยผู้หว่าน

1)    เมล็ด คือ พระคำของพระเจ้า   (ลก 8.11)

2)        เมล็ดซึ่งเป็นพระคำประกอบด้วยชีวิต  (ยฮ 6.63, 1 ปต 1.23)

ค.      ดินสี่ชนิดแสดงถึงนิสัยความรู้สึกที่มีต่อพระกิตติคุณ 

1)    ดินริมหนทาง   บ้างก็ตกอยู่ริมหนทาง

นี่เป็นดินแข็งตามคันนา  ทางเดิน

ได้มีโอกาสติดต่อกับเมล็ด

แต่เป็นดินที่ไม่เชื่อ  (ลก 8.12)

เขาไม่เข้าใจเพราะว่าเขาจะไม่เข้าใจ  (มธ 13.19)

นี่คือผู้ที่ไม่สนใจในพระกิตติคุณ

เหตุที่ให้ใจแข็งกระด้าง

-             ความหยิ่งเป็นสาเหตุของการต่อต้านความจริง  (ตัวอย่างพวกยิว)

-             อคติเป็นเครื่องกีดขวาง   (อซด 14.1-5)

-             กลัวที่จะต้องเลิกบางสิ่งบางอย่าง   (ลก 18.18-24)

-             ความรักโลก  เขาอาจจะได้รับอิทธิพลจากโลกจนทำบาปเสียด้าน  (อซ 4.17-19)

                       )    นกเป็นสัญลักษณ์ของมาร   (มธ 13.19)

ซาตานมาทันที   (มก 4.15)  จิกเอาเมล็ดไปกินเสีย   (มธ 13.19)

มารเอาแต่เมล็ดที่ดินไม่ยอมรับไว้เท่านั้น

ซาตานยินดีที่จะร่วมมือกับคนที่ปฏิเสธความจริง   (ดู ยฮ 13.2, 27, มธ 27.4, กก 5.3-4)

 

2)     ดินหินมากดินน้อย   บ้างก็ตกที่มีหินมากดินน้อย

นี่เป็นดินบาง ๆ  เหนือฐานหิน

-      นี่ไม่ใช่หัวแข็ง   ต่อต้าน   เพียงแต่ขาดความจริงใจ

-      บางคนเป็นคนที่ตื่นเต้นกระตือรือร้นง่าย   ชอบเริ่มโครงการใหม่   แต่ไม่เคยทำอะไรสำเร็จ

เมล็ดงอกขึ้นโดยเร็วเพราะรากไม่มี

นี่เป็นแต่อารมณ์  ผิวเผินและถูกกระตุ้น

มองเห็นแต่ส่วนที่สบายในคริสตศาสนา

ไม่ได้คิดราคาดูเสียก่อน   (ลก 14.25 ตต)   มีกางเขนที่จะต้องแบก   (ลก 9.23)

                        )    รากไม่ลึกเพราะที่ไม่ชื้น   (ลก 8.6)

ต้นไม้จะมีชีวิตอยู่ไม่ได้ถ้าไม่หยั่งรากลึก

ทุกคนต้องหยั่งรากลงในพระคริสต์  (กซ 2.7, อซ 3.17)

)     ดังนั้นเมื่อแดดออกร้อนก็เหี่ยวแห้งไป  (มธ 13.20)  หลงเสียไป  (ลก 8.10)

คนเหล่านั้นที่ตอบสนองพระองค์เพราะอารมณ์จะหล่นหลงหายเร็ว

ดวงอาทิตย์   (การทดลองและการข่มเหง)   ทำลายรากตื้น ๆ แต่ทำรากที่แข็งให้หยั่งลึกลงกว่าเดิมอีก  (ยบ 1.2-4)

พวกนี้เป็นที่เชื่อชั่วขณะหนึ่ง   (ลก 8.13)   แต่เพราะรากไม่ลึก   พวกเขาก็จะหลง

 

               3)    ดินหนาม   บ้างก็ตกกลางหนาม

)   ดินนี่มีปุ๋ยแต่เบียดแย่งกัน   เมล็ดของหนามนั้นอยู่ในดินแล้ว

)   หนามที่งอกขึ้นปกคลุมเมล็ด  หมายถึง  ผู้ที่ใจจดจ่ออยู่กับสิ่งอื่น   ผู้ที่ใจไม่สัตย์ซื่อต่อพระองค์อย่างแท้จริง 

        (สองจิตสองใจ)

                              1.   ความปรารมภ์ด้วยโลกนี้    (มธ 13.22) สำหรับบางคน

                                    1.1   ห่วงใยการทำมาหากิน   (สภษ 30.8-9, มธ 6.25)

                                    1.2    สังเกตตัวอย่างของมาธา   (ลก 10.41)     

                              2.   การล่อลวงแห่งทรัพย์สมบัติสำหรับบางคน   (มธ 13.22)

2.1    ความร่ำรวยไม่ได้ให้ตามสัญญาของมัน  (ทปก 5.10-13)

2.2         นี่นำไปถึงความบาปอื่น ๆ  (1 ตธ 6.9-10)

2.3         วัตถุนิยม  คือ  คำแช่งสาปของคริสตจักรทุกวันนี้

3.         ความโลภในสิ่งอื่น ๆ  (มก 4.19)

3.1     ครอบครัว  ความสำเร็จในการศึกษา  อยากมีชื่อเสียง

3.2     แม้แต่สิ่งที่ถูกต้องก็ไม่ควรมาก่อนพระคริสต์  (มธ 6.33)

                              4.     ความสนุกสนานแห่งชีวิต   (ลก 8.14) สามารถปกคลุมพระเยซูเสีย

                                       4.1   ทรัพย์สมบัติฝ่ายโลกไม่สามารถให้ความสุขแท้ได้   (ทปก 2)

                                       4.2    บางคนงานอดิเรก   กีฬาและการพักผ่อนหย่อนใจมาที่หนึ่ง   (1 ตธ 4.8)

                       )   ดินนี้ไม่เกิดผลที่สมบูรณ์   (มธ 13.22, ลก 8.14)

                              1.   นี่เป็นสมาชิกไม่ร้อนไม่เย็น   (วว 3.15-16)

                              2.   สังเกตการที่พระผู้เป็นเจ้าเตือนคริสตจักรที่ซัรได   (วว 3.2)

                              3.   ผู้ที่ไม่เกิดผลจะถูกทำลาย   (ยฮ 15.2, 6)

 

               4)     ดินดี   บ้างก็ตกที่ดินดี   

นี่คือผู้ที่มีใจเลื่อมใสศรัทธา  แล้วก็จดจำ  (ลก 8.15)  ถวายชีวิตจิตใจ

สังเกตการกระทำของพวกนี้

พวกเขาฟังและเข้าใจ  (มธ 13.23)

พวกเขาฟังและรับไว้ในใจ  (มก 4.20)

พวกเขาฟังและยึดมั่นด้วยความเพียร   (ลก 8.15)

พวกเขาจึงเกิดผล

ดินให้ผลผลิตต่าง ๆ

                              1.   บ้างให้ผล 100  เท่าบ้าง 60 เท่าบ้าง 30 เท่า ในมาระโก ลำดับกลับกัน น้อยก็สำคัญเท่ากับ

                                     มาก

บางคนมีผลมากเพราะเป็นคริสเตียนก่อน

บางคนมีการศึกษาดีกว่า

บางคนมีครอบครัวที่ช่วยเหลือในการงานดีกว่า

)    ดินนี้ให้ผลโดยความเพียร   (ลก 8.15)   ออกผลเสมอ

                              -      เป็นการใช้ไม่ได้ที่จะออกผลเพียงหนเดียวแล้วก็ไม่ออกอีก

 

3.      บทเรียนที่เราเรียนจากคำอุปมานี้

เราต้องเป็นผู้ฟังที่ถูกแบบ  (มธ 13.9, ลก 8.8, 18)

ความรอดเกี่ยวพันกับการฟังพระคำแห่งชีวิตของพระคริสต์

เมล็ดไม่มีอำนาจจนกว่ามันจะหว่านลง

เราต้องไม่ให้อิทธิพลมาทำให้ใจเราแข็งกระด้างไม่ยอมรับความจริง

พระคริสต์ต้องการให้ทุกคนมีโอกาสได้ยินพระกิตติคุณ

เราต้องต่อสู้มารซาตาน   (ยบ 4.7)

เราต้องระวังอย่าทำอะไรตามอารมณ์และขาดเหตุผล  แต่ให้ทำด้วยใจที่มีสติครบบริบูรณ์ด้วยเหตุผล

ต้องมองดูการทดลองในแนวทางที่ถูกเพราะมันสามารถเปลี่ยนแปลงบุคคลิกของเรา

บุตรของพระเจ้าก็สามารถหลงหายได้

วางใจว่าพระเจ้าจะทรงนำพาชีวิตของเรา

ให้พระคริสต์มาที่หนึ่งเสมอในชีวิตของเรา

การไม่เกิดผลจะถูกทำลาย

 

Comments

Popular posts from this blog

คำอุปมา บทที่ 8

คำอุปมา บทที่ 13

บทเรียนไปษณีย์ บทที่ 3