คำอุปมา บทที่ 11

 


บทที่  11

คำอุปมาเรื่องการเจริญของเมล็ดพืช

(มก 4.26-29)

 

1.      พื้นฐาน

ก.        เหมือนกันกับคำอุปมาเรื่องผู้หว่านพืช

ข.    คำอุปมาตามเรื่องผู้หว่าน  เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องย่อยของเรื่องผู้หว่านอีกที  คือเพื่อจะชี้แจงให้เห็นถึงผลของเมล็ดว่ามันเจริญอย่างไรเมื่อมันได้ตกที่ดินดี

 

2.      เนื้อเรื่อง

ก.        แผ่นดินของพระเจ้าเปรียบเหมือนกับชายผู้หนึ่งหว่านเมล็ดพืชลงบนดิน

1)        เมล็ดได้แก่พระคำ  (ลก 8.11)

2)        ดินนี้ หมายถึง ดินดี ในคำอุปมาก่อนๆ คือผู้ที่ได้ยิน ยอมรับและนำไปปฏิบัติตาม  และเกิดผล (มก 4.20)

 

ข.        เขานอนหลับและตื่นขึ้น  -  พืชก็งอกจำเริญขึ้นแต่เขาไม่รู้ว่างอกได้อย่างไร

1)    เมล็ดได้ถูกหว่านลงและปล่อยให้มันทำงานโดยพลังของมันเอง  การกระทำของมันไม่ขึ้นอยู่กับผู้หว่าน

2)        เขาไม่สามารถที่จะอธิบายถึงการเจริญของเมล็ดอย่างลึกลับนี้ได้   ไม่ว่าจะเป็นทางฝ่ายเนื้อหนังหรือทางด้านจิตวิญญาณ

 

ค.        แผ่นดินให้มันเกิดผลเอง  -  ลำต้น รวงและเมล็ดข้าวเต็มในรวงนั้น

1)    แผ่นดินเอง   เป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบของใจของแต่ละคน

2)    กฎของการเจริญเติบโต จะเป็นทีละขั้นดังได้กล่าวไว้ในที่นี้

ก)        ความเชื่อเป็นขั้นแรก  (ฮร 11.6, ยฮ 8.24)

ข)        ความเชื่อจะออกเป็นการกลับใจใหม่  (รม 8.4, 2 กธ 7.10)

ค)        แล้วจะกลายเป็นความแน่ใจของการสารภาพ  (มธ 10.32)

 

.    เมื่อรวงข้าวสุก  เคียวเกี่ยวก็พร้อมสำหรับการเกี่ยว

1)        นี่คือการเก็บรวบรวมจิตวิญญาณในแผ่นดิน

ก)        การรับบัพติศมาเป็นการกระทำเพื่อเข้าสู่แผ่นดิน  (ยฮ 3.3-5, 1 กธ 12.13, ฆต 3.27, รม 6.3-4)

 

3.      บทเรียนที่เราเรียนจากคำอุปมานี้

ก.        ต้องหว่านเมล็ดเสียก่อน  ก่อนที่จะมีการเกี่ยวเก็บ

ข.        อำนาจอยู่ในเมล็ดไม่ใช่อยู่ที่ผู้หว่าน

ค.        ใจของแต่ละคนต้องฝึกฝนตนเองในการตอบสนองต่อความจริง

ง.         เราต้องอดทนต่อคนเหล่านั้นที่กำลังจะเจริญขึ้นสู่การเชื่อฟังที่สมบูรณ์

จ.         เราต้องมีความรู้สึกอ่อนไหวต่อความต้องการความช่วยเหลือของผู้อื่นเสมอ  และพร้อมเสมอที่จะเกี่ยวเมื่อเขาสุกพร้อม

 

Comments

Popular posts from this blog

คำอุปมา บทที่ 8

คำอุปมา บทที่ 13

บทเรียนไปษณีย์ บทที่ 3